1. ตั้งราคา แบบให้ส่วนลดใครๆ ก็ชอบสินค้าลดราคา ซึ่งนั่นทำให้การตั้งราค าแบบให้ส่วนลดเป็นเทคนิคสุดคลาสสิกของการค้าขายเลยก็ว่าได้ การลดราคาเป็นการกระตุ้นยอดขายได้ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าเกิดแรงจูงใจที่จะซื้อแล้ว ยังทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการที่จะซื้อสินค้านั้นมากขึ้นอีกด้วย การตั้งราคาแบบให้ส่วนลดแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ให้ส่วนลดแบบคนต่อคน พ่อค้าแม่ค้าต้องตั้งราคาเผื่อไว้ว่าถ้าลูกค้าขอให้ลดราคาสินค้านั้นๆ จะสามารถลดราคาได้เท่าไหร่ เช่น ตั้งราคาสินค้าไว้ 199 บาท พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องคำนวณไว้แล้วว่าลดราคาเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุน อาจจะลดเหลือ 190 เป็นต้น
2. ตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 เห็นกันบ่อยมากกับราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ไม่ว่าจะเป็นเสื้อราคา 199 บาท หนังสือเล่มละ 99 บาท ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมใช้หลักการตั้งราคาโดยใช้เลข 9 ราคาสากลที่เราเห็นกันก็นิยมใช้เลข 9 ตั้งเป็นราคาเช่นกัน เช่น รองเท้าราคา 4.99$ เสื้อตัวละ 2.99$ การตั้งราคาที่ลงท้ายตัวเลข 9 เป็นหลักจิตวิทยาที่ดึงดูดใจลูกค้าอย่างหนึ่ง เพราะการตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 นั้นจะทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย เนื่องจากลูกค้าจะเกิดความรู้สึกว่าได้ซื้อสินค้าราคาถูก ตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 99 บาท กับ 100 บาท ซึ่งราคาต่างกันเพียง 1 บาท แต่ความรู้สึกของลูกค้ารู้สึกว่าราคา 99 บาทนั้นถูกกว่า 100 บาท
3. ตั้งราคา ให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า เมื่อเราตั้งราคาสินค้าที่คิดว่าเหมาะสมไม่น้อยจนอาจเกิดการขาดทุน และไม่มากเกินกำลังซื้อของลูกค้า สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราก็คือ เทคนิคทางจิตวิทยาของพ่อค้าแม่ค้าที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของเราคุ้มค่ากับราคาที่ตั้งไว้จริงๆ
4. การตั้งราคาที่ง่ายต่อการคำนวน การตั้งราคา ที่ง่ายต่อการคำนวณเป็นผลดีต่อทั้งพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้า คือทำให้พ่อค้าแม่ค้าคิดราคาได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ทำให้ลูกค้าไม่ลังเลที่จะจ่าย และตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เทคนิคการตั้งราคาในข้อแรกนี้นิยมใช้ในสินค้าชิ้นเล็กๆ ที่ต้องการขายสินค้ามากกว่าหนึ่งชิ้นขึ้นไป
5. ตั้งราคา แบบรวมเป็นชุด การตั้งราคาแบบรวมเป็นชุด คือเทคนิคการตั้งราคาที่ดึงดูดใจลูกค้าที่น่าสนใจ วิธีนี้จะทำให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ปริมาณมากกว่าหนึ่งชิ้นแน่นอน เพราะการตั้งราคาแบบรวมเป็นชุดจะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการ รู้สึกว่าซื้อแล้วคุ้มค่ามากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อกางเกงในราคา 350 บาท แล้วเกิดความลังเลที่อยากจะได้เสื้อในราคา 200 บาท ด้วย คนขายจึงเสนอว่าถ้าซื้อสองอย่างพร้อมกันจะคิดราคาเพียง 500 บาท วิธีนี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น